วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

FOOD INFORMATION CENTER




กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ 10 วิธีกินแบบพอเพียงช่วงโควิดได้คุณค่าทางโภชนาการช่วยให้สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ลดภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนลงพุง
แพทย์หญิงพรรณพิมล  วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ประชาชนให้ความร่วมมือในการป้องกันการแพร่ระบาดด้วยการอยู่บ้าน ซึ่งอาจทำให้กินอาหารในปริมาณมากเกินไป ไม่ถูกหลักโภชนาการ และไม่มีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนลงพุงตามมาได้ กรมอนามัยจึงขอแนะนำการสร้างสุขภาพดีให้กับตนเอง หลังมีมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ด้วยการนำหลักพอเพียงมาใช้ในการกินอาหารแต่ละมื้อซึ่งการสร้างพฤติกรรมการกินอย่างง่ายภายใต้หลัก 
1.กินพออิ่มในแต่ละมื้อ โดยตักอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป
2.ดัดแปลงอาหารที่เหลือเป็นอาหารจานใหม่ เช่น ผัดคะน้า นำมาต้มจับฉ่ายผสมกับผักอื่น ๆ น้ำแกงส้มที่เหลือสามารถเติมถั่วฝักยาว มะละกอ แครอท ผักบุ้ง ส่วนผลไม้ที่เหลือหลายชนิดนำมาทำเป็นสลัดผลไม้
3.เรียนรู้วิธีการเก็บรักษาอาหารแต่ละประเภท เพื่อยืดอายุการใช้งานของวัตถุดิบต่าง ๆ
4.หุงข้าวผสมข้าวโพด ถั่ว เผือก มัน  เพื่อเพิ่มวิตามินและยังได้สารอาหารอื่น ๆ เพิ่มด้วย
5.เลือกวัตถุดิบคุณภาพดีราคาถูกในการทำเมนูอาหาร เช่น อาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาจใช้ ไข่ เต้าหู้ และถั่วเมล็ดแห้ง สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกับเนื้อหมู/ไก่  เลือกผักพื้นบ้าน ผลไม้ตามฤดูกาลที่หาได้ง่ายและราคาไม่แพง
6.ลดการกินจุบกินจิบ กินอาหารให้เป็นเวลา ซึ่งอาหารหลัก 3 มื้อก็เพียงพอแล้ว หรือ  อาหารว่างเลือกเป็นผลไม้ ถั่ว นม
7.งดการกินอาหารมื้อดึก เพราะถ้ากินอาหารมื้อดึกเข้าไปแล้วในช่วงเวลานั้นไม่มีการออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายใด ๆ มีแต่การนอน ทำให้ร่างกายเผาผลาญอาหารที่กินไปน้อยมาก และจะสะสมเป็นไขมันแทนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ 
8.เคี้ยวอาหารช้า ๆ อย่ารีบร้อน จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วกว่า เพราะร่างกายคนเราจะเริ่มรู้สึกอิ่มเมื่อกินอาหารไปประมาณ 20 นาที
9.ไม่กินทิ้งขว้าง มีวินัยในการซื้อและการกินที่ดี เพราะปัจจุบันอาหารเกือบทุกชนิดมีราคาสูง ต้องคำนวณให้ดีในการซื้อแต่ละครั้ง เพราะหากซื้อมากเกินไปแล้วกินอาหารไม่หมด ก็ทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
10.เน้นกินเมนูที่หลากหลาย เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน และที่สำคัญควรหมั่นออกกำลังกาย เป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เพื่อช่วยเผาผลาญพลังงานที่ได้รับในแต่ละวันด้วย” แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าว
ขอขอบคุณ
ข้อมูลจาก: สื่อมัลติมีเดียกรมอนามัย
ภาพจาก: Freepik

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น