กรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนเลือกกินปลาส้ม ปลาร้า ที่สะอาดถูกหลักสุขาภิบาลอาหาร
ช่วยลดโรคพยาธิใบไม้ตับ ส่วนผู้ประกอบการขอให้คำนึงถึงความสะอาดปลอดภัย
เลือกวัตถุดิบหรือปลาที่มีคุณภาพ
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า
จากพฤติกรรมการบริโภคอาหารตามวิถีชีวิตแบบพื้นถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่นิยมบริโภคปลาร้า ปลาส้ม และปลาจ่อมแบบดิบ ๆ
โดยไม่ผ่านความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงให้นานเพียงพอที่ทำให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง
ยิ่งนำปลาน้ำจืดประเภทปลาเกล็ดมาหมักดองเป็นปลาร้าหรือปลาส้มที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
จะยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ที่หลบซ่อนอยู่ใต้เกล็ดปลา
ทำให้ผู้บริโภคปลาร้า ปลาส้ม หรือปลาจ่อมสุก ๆ ดิบ ๆ ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ
ที่ฝังตัวอยู่ในท่อน้ำดีได้ การป้องกันที่ดีจึงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินปลาน้ำจืดที่สุกอย่างทั่วถึง
ด้วยความร้อน
เป็นการกำจัดเชื้อพยาธิใบไม้ตับและส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงการป้องกัน
รักษาสุขภาพและการจัดการอาหารพื้นบ้านให้ถูกสุขลักษณะตามหลักสุขาภิบาลอาหาร
“ทั้งนี้ การเลือกซื้อปลาร้า ปลาส้ม หรือปลาจ่อม
ในกรณีที่ซื้อแบบบรรจุขวดควรดูเลขสารบบอาหาร (เลข อย.) หากซื้อแบบไม่บรรจุขวด
ควรดูว่ามีสิ่งเจือปน และกลิ่นผิดแปลกจากที่เคยกินหรือไม่
โดยเลือกซื้อจากสถานที่จำหน่ายที่น่าเชื่อถือและคุ้นเคย
และก่อนบริโภคทุกครั้งควรนำไปต้มใหม่หรือปรุงด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส นาน 5 นาที
เพื่อลดความเสี่ยงพยาธิใบไม้ตับ และสำหรับผู้ประกอบการนั้น ควรคำนึงถึงความสะอาดปลอดภัย
เลือกวัตถุดิบหรือปลาที่มีคุณภาพ และมีระยะเวลาในการหมักที่เหมาะสม
หากเป็นปลาส้มให้หมักนานมากกว่า 3 วัน
ส่วนปลาร้าให้หมักนานมากกว่า 1 เดือนขึ้นไป
โดยกระบวนการผลิตจะต้องมีเครื่องมือและเครื่องใช้ที่สะอาดมีมาตรฐาน
และมาตรการป้องกันการปนเปื้อน
น้ำที่ใช้ในการผลิตจะต้องมีคุณภาพน้ำดื่มตามมาตรฐานของกรมอนามัย
สถานที่เก็บวัตถุดิบต้องสะอาดเป็นสัดส่วน มีการป้องกันการปนเปื้อน
ส่วนผู้ปฏิบัติงานต้องมีสุขอนามัยดี
นอกจากนี้ต้องมีการจัดการด้านสุขาภิบาลของสถานประกอบการไม่ให้เกิดปัญหาผลกระทบกับชุมชนในด้านกลิ่น
น้ำเสียจากเศษปลา และมีระบบการกำจัดขยะที่ถูกหลักสุขาภิบาลด้วย
เพื่อป้องกันตัวอ่อนพยาธิลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ขอขอบคุณ
ข้อมูลจาก: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น